ประกาศฟรี

หน้าแรกประกาศ

ประกาศมาใหม่

ลงประกาศสินค้าใหม่ที่นี่
สมัครสมาชิกใหม่
สมัครสมาชิก
เข้าสู่ระบบสมาชิก
เข้าสู่ระบบสมาชิก

หมวดหมู่ประกาศ / ประกาศ / โฆษณาWeb

ทริปเส้นทางสายไหมจีน ทะลุปากีสถาน 16 วัน

22 พ.ค. 2555 11:02:01
แจ้งลบประกาศ

ทริปเส้นทางสายไหมจีน ทะลุปากีสถาน 16 วัน
Trip Code : SilkRd01

กำหนดจัดการเดินทาง
15 -30 กันยายน 2555 // 109,000 บาท / ท่าน

สถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจ : เมืองตุนหวง ถ้ำโม่เกา ทะเลทรายร้องไห้(หมิงซาซาน) เมืองถูลู่ฟาน ภูเขาเปลวไฟ(ฮว่อยั่นซาน) อุโมงค์น้ำคาเรซ ไร่องุ่น(ผู่เถาโกว) เมืองโบราณเจี้ยวเหอ ทะเลทรายโกบี เมืองอูรูมูฉี ทะเลสาบคานาสือ(คานาส) เมืองคัชการ์(คาสือ) คุนจิราบพาส เส้นทางคาราโครัม ปากีสถาน ธารน้ำแข็งพัสสุ ฮุนซ่า แชงกรีล่าแห่งคาราโครัม ยอดเขาเลดี้ฟิงเกอร์ อุลตร้าพีค ยอดเขาราคาโพชิ เมืองกุลมิตร กิลกิต แฟรี่มีโดวส์ เมืองอิสลามาบัด เมืองโบราณตักศิลา เมืองละฮอร์ พิธีปิดชายแดน พิพิธภัณท์ละฮอร์

อีกโลกหนึ่งของการเดินทาง ที่จะนำท่านผ่าน ภูมิประเทศ วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ ที่ไม่เคยมีในประเทศไทย ทุกอย่างที่เราเคยดูในสารคดี เมื่อหลายสิบปีก่อน ตำนานประวัติศาสตร์ของไซอิ๋ว ที่เราเคยดูแต่ในหนัง เส้นทางภูเขาหิมะแสนสวย ที่เราไม่คิดว่ามันจะมีอยู่จริงๆบนโลกนี้ และ พื้นที่ที่คนไทยน้อยคนนักที่จะย่างกรายเข้าไปถึง

สิ่งเหล่านี้คือ สิ่งที่ผมคิดเมื่อผมพยายามอธิบายเส้นทางของทริปนี้ ที่ทุกคนคุ้นปากกันดีกว่า "เส้นทางสายไหม" ไม่ได้อยู่อยุธยานะครับ มันไกลกว่านั้น ครั้งหนึ่งเคยเป็นเส้นทางการค้าที่ยาวที่สุดในโลก กว่า หมื่นไมล์ เริ่มต้นจาก มหานครฉางอัน ราชธานีที่ยิ่งใหญ่ของแผ่นดินจีน สมัยราชวงจิ๋น ฮั่น ตั้งแต่กว่า 2000 ปีที่แล้ว ตำนานบอกเล่าการเดินทางที่แสนหฤโหด ผ่านทะเลทราย ขุนเขาหิมะ ความร้อน แล้ง พายุที่กกระหน่ำราวลมปีศาจ ภูเขาที่ร้อนดั่งเปลวไฟ ทั้งหมดของการเดินทางเส้นทางนี้สมัยโบราณ ได้ถูกพระสงฆ์นักเดินทางที่ยิ่งใหญ่บันทึกเอาไว้จนเป็นแรงบันดาลใจ ของ นิยายเรื่องไซอิ๋ว เส้นทางที่มาร์โคโปโล เดินทางข้ามมาจาก มหานครเวนิซ สู่เมืองหลวงคาราโครัมของกุบไลข่าน นำเอาเรื่องราวของแผ่นดินจีน ไปเล่าขาน นำเอาเส้นหมี่ของจีน ไปเป็นสปาเก็ตตี้ของ อิตาลี สิ่งเหล่านั้นยังคงสามารถ พบเห็นได้ดั่งย้อนอดีต สูดกลิ่นไอของตำนานที่หลงเหลือ และ ซอกแซ่กเข้าไปด้วย ดินแดนที่บริสุทธิ์ผืนสุดท้ายบนโลก ความสวยงามของใบไม้เปลี่ยนสี ที่ทะเลสาบคานาสือ หนึ่งดินแดนที่เข้าถึงยากที่สุดของเมืองจีน

แต่ว่า สิ่งที่กล่าวมานั้น ผมว่ามันก็ยังเป็นแค่ "ครึ่งทาง" ครับ เมื่อยังมีเส้นทางสวยงาม พิสุทธิ์ ที่มากกว่าที่ใดในโลก เพราะ มันถูกปกป้องจากเทือกเขาหิมะสูงชันรอบด้าน ถูกปกป้องจากนักท่องเที่ยว ด้วยข่าวลือ เรื่องสงครามของพื้นที่ใกล้เคียง ทั้งที่ภายในหุบเขาแห่งคาราโครัม นั้นสงบสุขราวกับ ดินแดนสุขวาวดี ที่เรียกว่า แชงกรีล่า ความหลากหลายของเส้นทาง ด่านพรหมแดนที่สูงที่สุดในโลก คุนจิราบ ธารน้ำแข็งที่อยู่ใกล้ราวกับสัมผัสได้ เหล่ายอดเขาที่สูงกว่า 6000 เมตร ที่มองเห็นได้จากโรงแรมห้องพัก จุดชมวิวที่เทียบได้กับพูนฮิลแห่งคาราโครัม แฟรีมีโดวส์ ทุ่งหญ้าที่สวยงามราวเทพนิยาย โดยมียอดเขา นังการ์พาบัด ที่สูงเกิน 8000 เมตร เส้นทางแห่งศาสนาพุทธ ที่เคยเดินผ่านเส้นทางนี้ เมื่อกว่า 2000 ปีที่แล้ว และ ตักศิลา มหานครสงค์ ที่เคยยิ่งใหญ่สูงสุดของโลก เมื่อได้รวมเข้ากับความเชื่อ และ ศิลปะของโรมัน จากพระเจ้าเอล็กซานเดอร์มหาราช ในครั้งบุกกรีทาทัพเข้าชมพูทวีป และ ปิดท้ายที่ พิธีปิดชายแดน ร่องรอยแห่งสงครามและความเกลียดชัง จนชาติเดียวกันจะต้องประหัตประหารกัน เกลียดชังกัน ปิดประตูใส่กันจนถึงทุกวันนี้

ทั้งหมดนี้ เป็นเพียงอรัมภบทที่ท่านจะได้อ่าน แต่จริงๆแล้ว ประสบการณ์ที่ท่านสัมผัสในการเดินทางครั้งนี้ ท่านจะไม่มีวันลืนเลือนไปชั่วชีวิต ผมก็กล้ารับประกันเลยทีเดียวครับ แต่ว่าการเดินทางครั้งนี้ ก็ใช่ว่าจะง่าย และสะดวกสบายเหมือนทริปอื่นๆนะครับ เราจะต้องผ่านสิ่งต่างๆมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ความร้อน 40 องศา ของ ทะเลทราย ภูเขาหิมะ ความสูง 4800 เมตร รถไฟตู้นอน เครื่องบินสบายๆ เดินด้วยเท้าขึ้นสู่ธารน้ำแข็ง ขี่ม้าขึ้นสู่ทุ่งหญ้าแฟรี่มีโดวส์ อาหารภัตตาคาร หรือแม้กระทั่งอาหารปิคนิค ที่ไม่เคยกำหนดเวลาได้ แต่ผมก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งทริปที่ไปกันได้ทุกเพศทุกวัย ถ้าใจพร้อมนะครับ

โปรแกรมเดินทาง
[B=Breakfast อาหารเช้า / L=Lunch อาหารกลางวัน / D=Dinner อาหารเย็น]

วันแรกของการเดินทาง 15 ก.ย. ( กทม. - กวางโจว)
16.55น. นัดเจอกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกชั้น 4 ประตู 9-10 เคาเตอร์ U เดินทางโดยสายการบินไชน่าเซาท์เทิร์นแอร์ไลน์ เพื่อเดินทางสู่กวางโจว เที่ยวบิน CZ364 เวลา18.55 (BKK) 22.30 (CAN)

วันที่สองของการเดินทาง 16 ก.ย. (กวางโจว - หลันโจว - city tour- รถไฟตู้นอนสู่ ตุนหวง ) [B-L-D]
06.35น. เดินทางจาก กวางโจวไปหลันโจว ด้วยเที่ยวบิน CZ3205 สายการบินไชน่าเซาท์เทิร์น แอร์ไลน์ เวลา 08.35 (CAN) 11.40 (LWH)
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน
บ่าย ชมเมืองหลันโจวเมืองเอกของมณฑลกันซู่ มีลักษณะยาวๆไปตามแม่น้ำ ขนาบด้วยภูเขาตลอดแนว เป็นเมืองอุตสาหกรรมรมปิโตเลียม และเครื่องจักรหนัก
เย็น รับประทานอาหารเย็น แล้วเดินทางสู่สถานีรถไฟ เพื่อเดินทางไปตุนหวง ด้วยรถไฟตู้นอนขบวน K591 ออกเดินทางเวลา 18.59-09.30น.
หมายเหตุ ขบวนรถไฟอาจจะมีการเปลี่ยนแปลง เพื่อไปถึงตุนหวงเช้าหน่อย

วันที่สามของการเดินทาง 17 ก.ย. ( ตุนหวง - ถ้ำโม่เกา - ทะเลทรายหมิงซาซาน - สระน้ำวงพระจันทร์ - ตุนหวง - อูหลูมู่ฉี - ถูลู่ฟาน) [B-L-D]
09.30น. เดินทางถึงเมืองตุนหวงโอเอซีสบนเส้นทางสายไหม เป็นเมืองชายแดนมณฑลกานซู่ที่ติดกับเขตปกครองตนเองชนชาติซินเกียง จากนั้นไปชม ถ้ำโม่เกา มรดกโลกที่ยิ่งใหญ่อีกแห่งหนึ่งของโลก เป็นถ้ำที่มีคูหาใหญ่น้อยถึง 492 คูหา มีภาพวาดสีบนผนังสวยงาม มีพระพุทธ รูปแกะสลัก และองค์เจ้าแม่กวนอิม หลังจากนั้น ชม หมิงซาซาน เทือกเขาทะเลทรายที่มีความยาว 40 ก.ม. สูงประมาณ 250 เมตร ทรายมีสีสันต่างกัน 5 สี คือ สีแดง เหลือง เขียว ขาว ดำ แล้วนำท่านไปชมสระน้ำวงพระจันทร์ บ่อน้ำผุดที่ไม่เคยเหือดแห้งแม้จะอยู่กลางทะเลทรายทั้งที่มีความลึกเฉลี่ย เพียง 6 เมตรเท่านั้น
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน
บ่าย ชม สระน้ำวงพระจันทร์ หลังจากนั้นเดินทางสู่สนามบินเพื่อเดินทางสู่เมืองอูหลูมู่ฉี ด้วยเที่ยวบิน CZ6896 เวลา 16.30-18.05 แล้วเดินทางสู่ถูลู่ฟาน

วันที่สี่ของการเดินทาง 18 ก.ย. (ถูลู่ฟาน - เมืองโบราณ เจี้ยวเหอ - อุโมงค์น้ำ คานเอ๋อจิ่ง - สวนองุ่นผูเถาโกว - ฮว่อยั่นซาน - หมู่บ้านทูหยก – ซาม้อกงหยวน - อูรูมูฉี) [B-L-D]
เช้า รับประทานอาหารเช้า ที่โรงแรม แล้วจึง เที่ยวเมืองถูลู่ฟาน เมืองที่ได้ชื่อว่า ต่ำที่สุดในเมืองจีน ซึ่งต่ำกว่าระดับน้ำทะเลถึง 150 เมตร แบะมีชื่อเสียงความเป็นที่สุดหลายๆอย่างในเมืองจีน ( ต่ำที่สุด ร้อนที่สุด อุณภูมิต่างกันเยอะที่สุด องุ่นหวานที่สุด แล้งที่สุด และยังมีอีกครับ ) โดยเราจะเริ่มที่ เมืองโบราณเจี้ยวเหอ ที่มีอายุเก่าแก่กว่าเมืองโบราณเกาชางประมาณ 100 ปี เคยเป็นเมืองหลวงในยุคอาณาจักร CHESHI ถูกทำลายโดยสงคราม 40 ปี หลังสิ้นศตวรรษที่ 13 จากนั้นเราไปชมอุโมงค์น้ำ คานเอ๋อจิ่ง ระบบน้ำ ที่น่าอัศจรรย์ ซึ่งชาวถูลู่ฟานนั้น รู้จักเรียนรู้ และปรับตัวเข้ากับสภาพพื้นที่ที่สุดโหด สุดขั้วเช่นนี้มาตั้งแต่ 2000 ปีที่แล้ว ซึ่งถือว่าเป็นต้นกำเนิดทุกสรรพชีวิตในเมืองนี้เลยทีเดียวครับ อุโมงค์น้ำใต้ดินยาวรวมกันแล้วกว่า 2000 กม. เข้าถึงทุกหมู่บ้าน เทือกสวนไร่นา เราไปดูกันครับ เค้าทำได้อย่างไร แล้วหลังจากนั้นชม สวนองุ่นผูเถาโกว
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย ออกรอบนอกของเมือง เริ่มที่ ฮว่อยั่นซาน หรือ ภูเขาเปลวไฟ ซึ่งเป็นสถานที่ที่กล่าวถึงในนวนิยายไซอิ๋ว ตอนที่ซุนหงอคงไปยืมพัดกายสิทธิ์จากองค์หญิงพัดเหล็กมาดับไฟในภูเขาเปลวไฟ เพื่อให้พระถังซำจั๋งได้เดินทางไปเชิญพระไตรปิฎกที่อินเดียต่อ ภูเขาเปลวไฟมีลักษณะเป็นเขาหินสีอิฐแดงทั้งลูก ไม่มีต้นไม้ใบหญ้าขึ้นเลย มองแต่ไกลจะเห็นเป็นสีเพลิงคล้ายไฟกำลังลุกไหม้ แล้วจากนั้น ไปชมหมู่บ้านโบราณทูหยก ที่รักษาแบบแผนการดำรงชีวิตสมัยโบราณ ต้องแต่ยังเป็นโอเอซิส สมัยเส้นทางสายไหม บ้านเรือนที่ทำด้วยดิน ชาวบ้านยังใช้ชีวิตเช่นเดิม เหมือนฉากที่ย้อนอดีตไปหลายร้อยปีของซินเจียง แล้วจากนั้น ปิดท้ายวัน ด้วยทะเลทรายซาม้อกงหยวน ส่วนปลายของทะเลทรายโกบี ทรายสีแดง และ ภูเขาทรายสูงนับร้อยเมตร ที่ยื่นปลายเข้ามาในเขตของถูลู่ฟานแห่งนี้ แล้วเดินทางเข้าสู่ อูรูมูฉี เมืองเอกของเขตปกครองตนเองซินเจียง เมืองสำคัญของเส้นทางสายไหมสายเหนือ ตั้งอยู่แถบเทือกเขาเทียนซาน ที่ความสูง 900 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล
เย็น รับประทานอาหารเย็น ก่อนเข้าสู่ที่พักล้างเนื้อล้างตัว พักผ่อนเต็มๆอีกคืนนะครับ

วันที่ห้าของการเดินทาง 19 ก.ย. (ถูลู่ฟาน - คาลาหม่าอี้ ) [B-L-D]
เช้า รับประทานอาหารเช้า แล้ววันนี้เราจะนั่งรถกันมาราธอนนิดนึงนะครับ เพื่อเดินทางไปยังเมือง คาลาหม่าอี้ ซึ่งอยู่ในซินเจียงตอนเหนือ มีชื่อเสียง เป็นเมืองอุตสาหกรรมน้ำมัน เป็นแหล่งน้ำมันดิบที่ใหญ่มากแห่งหนึ่งของจีน มีการผลิตน้ำมัน 6.32 ล้านตันต่อปี ตลอดเส้นทางจะเห็นแท่นขุดเจาะน้ำมันเรียงรายอยู่สองฝั่งทาง
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวันระหว่างทาง
เย็น รับประทานอาหารเย็น แล้วพักผ่อนตามอัธยาศัย

วันที่หกของการเดินทาง 20 ก.ย. (คาลาหม่าอี้ - เที่ยวเมืองผี แคนย่อน – ปูเออรจิน - อ่าว 5 สี – คานาสือ - จุดชมวิวทะเลสาบ 3 จุด) [B-L-D] )
เช้า รับประทานอาหารเช้า แล้วไปชม เมืองผีอูเอ่อเหอ (GHOST CITY) เมื่อพันล้านปีก่อนบริเวณนี้เคยเป็นทะเลสาบ แต่เมื่อเปลือกโลกมีการเคลื่อนตัวอย่างรุนแรง ทำให้ทะเลสาบนี้พลิกตัวกลับกลายเป็นทะเลทรายที่มีแอ่งหุบลึก และเมื่อเวลาผ่านไป รวมถึงลมที่พัดได้เกลาภูเขาหินเหล่านี้เป็นรูปร่างและสีสันต่างๆ เมื่อลมพัดแรงจะมีเสียงประหลาดเกิดขึ้น เหมือนเสียงสะท้อนที่ก้องไปมา ทำให้เป็นที่มาเป็นที่มาของชื่อ “เมืองปีศาจ” หลังจากนั้นเดินทางไป ปูเออร์จิน เพื่อออกเดินทางไปชม อ่าว 5 สี ซึ่งเป็นวิวเอกลักษณ์ของซินเจียง โขดหินชั้นดินหลากสี ฉากหลังใบไม้เปลี่ยนสี สีเหลืองอร่าม ที่ใช้เป็นที่ถ่ายทำ ภาพยนต์ The Hero เช่นเดียวกันจิ่วไจ้โกว หลังจากนั้นแวะชมจุดชมวิว 3 จุด คือ ชมทะเลสาบมังกรหลับ ซึ่งทะเลสาบแห่งนี้ จะมีเกาะอยู่ตรงกลางของทะเลสาบดูคล้ายกับสันหลังของมังกร จากนั้นชม ทะเลสาบวงพระจันทร์ ที่มีตำนานเล่าขานว่าเป็นทะเลสาบที่มีรอยเท้าของเจงกิสข่านเป็นรอยเท้าก่อน ที่เขาจะเดินทางขึ้นสู่สรวงสวรรค์ซึ่งทะเลสาบแห่งนี้จะมีหลากสี และสีของน้ำ นั้นเปลี่ยนแปลงตามอุณหภูมิ บางครั้งแบ่งเป็น 2 สีในเวลาเดียวกัน เดินทางต่อสู่ ทะเลสาบเทวดา เป็นทะสาบที่มีจุดเด่นอยู่ที่ความใสของน้ำและภูเขาที่ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ ด้านหลังทะเลสาบแห่งนี้
เย็น อิสระเดินเล่นชมใบไม้เปลี่ยนสี จนกระทั่งได้เวลารับประทานอาหารค่ำ ในเขตอุทยาน และ เข้าสู่ที่พัก ในหมู่บ้านคานาส ( อาจไม่ดีนักครับ แต่เป็นที่พักที่อยู่ในเขตอุทยาน )

วันที่เจ็ดของการเดินทาง 21 ก.ย. (คานาสือ - ศาลาชมปลา - ล่องเรือทะเลสาบ - อาเลอไท่ - อูรูมูฉี) [B-L-D]
เช้ามืด รับประทานอาหารเช้า แล้วจากนั้นเดินขึ้นสู่ ศาลาชมปลา ซึ่งเป็นศาลาชมวิวมุมสูงของทะเลสาบ ซึ่งเป็นจุดที่มีผู้พบเห็น สัตว์ประหลาดแห่งทะเลสาบคานาสือ เมื่อหลายปีก่อน (ชาวจีนเรียกว่า ต้าหงยวี แปลว่า ปลายักษ์สีแดง ซึ่งสีสันจะตัดกับน้ำสีฟ้าของทะเลสาบ เค้าบอกว่า มีขนาด 5-7 เมตรเลยทีเดียวครับ คล้ายๆกับ ทะเลสาบลอคเนส นั่นหละครับ ) ซึ่งที่ศาลาชมปลานี้ ยังสามารถชมวิวรอบๆ และ ยอดเขาเฟรนชิบพีค 4310 เมตร ซึ่งเป็นจุดร่วมพรหมแดนของ 4 ประเทศด้วยกัน ( จีน รัสเซีย คาซัคสถาน มองโกเลีย ) จากนั้นนำท่านล่องเรือ ภายในทะเลสาบคานาสือ ที่ล้อมรอบด้วยภูเขา และป่าไม้ที่ผลัดสีตามฤดูกาล เป็นทะเลสาบที่ขนานนามว่า ทะเลสาบแห่งเทพนิยาย หลังจากนั้น เดินทางสู่ อาเลอไท่ เพื่อไปยังสนามบิน ก่อนเข้าสนามบินแวะทานอาหารเย็นกันก่อน แล้วค่อยไปเช็คอินเข้าสู่เที่ยวบิน CZ6842 สู่อูรูมูฉี ออกเดินทางเวลา 21.35-22.35 เดินทางถึงอูรูมูฉีแล้วเข้าสู่ที่พัก

วันที่แปดของการเดินทาง 22 ก.ย. (อูรูมูฉี - พิพิธภัณท์ซินเจียง – ระบำซินเจียง - บินสู่ คาสือ(คัชการ์)) [B-L-D]
เช้า รับประทานอาหารเช้าจากนั้น นำท่านเที่ยวชม พิพิธภัณท์ซินเจียง ที่ซึ่งสามารถชมหลักฐานทางโบราณคดีได้ทั่วทั้งมณฑลชินเจียง ที่เก็บแสดงมัมมี่ชาวตะวันตกที่ขุดค้นพับ ในทะเลทรายทาลิมากัน ซึ่งเป็นข้อสงสัยและถกเถียงกันถึงประวัติศาสตร์ ความรู้วิทยาการของจีนเป็นอันมาก จากนั้นชมไปชมระบำซินเจียง เป็นระบำพื้นเมืองของชนเผ่าอุยกูร์ ถ้ายังมีเวลาเหลือเราจะไปเดิน ตลาดนัดขายสินค้าพื้นเมืองบาซ่าร์ เพื่อชมชีวิตของชาวบ้านและเลือกซื้อของที่ระลึก เช่น ผ้าพันคอสีสวย เครื่องเงินแบบอาหรับ ผลไม้อบแห้ง เช่น องุ่น แอปริคอด กีวี อินทผาลัม เลือกซื้อเมล็ดอัลมอนอบแห้ง เมล็ดวอลนัทอบแห้ง และถั่วอบแห้งชนิดต่างๆ จากนั้นไปทานอาหารกลางวัน แล้วเดินทางสู่สนามบิน เช็คอินเที่ยวบิน CZ6806 เดินทางเวลา 14.35 (URC)16.20(KHG) เดินทางถึงสนามบิน คาสือ (คัชการ์) เมืองโอเอซิสในประวัตศาสตร์บันทึกของ มาโคโปโล ซึ่งยังคงชื่อเดิมจนถึงปัจจุบัน
เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ. ภัตตาคาร ก่อนจะเข้าสู่ที่พัก โรงแรมเทียบเท่า 3-4 ดาว และ พักผ่อนตามอัธยาศัย

วันที่เก้าของการเดินทาง 23 ก.ย. (สุสานสนามเซียงเฟย - ทะเลสาบ คารากูล - ทัชกอกัน) [B-L-D]
เช้า รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม จากนั้นเที่ยวชม สุสานของสนมเซียงเฟย 1 ใน 5 ชาวงามของประวิติศาสตร์จีน ที่เป็นเชื่อสายอุยเกอร์ ในสมัยของเฉียนหลงฮ่องเต้ แล้วออกเดินทางสู่ เมืองสุดท้าย สุดชายแดนจีน ทัชกอกัน (ความสูง 3000 เมตร) บนที่ราบสูงปามีร์ ผ่านเส้นทางเดียวที่จะเชื่อมเส้นทาง จีน-ตะวันออกกลาง มาแต่ครั้งโบราณ ซึ่งระหว่างจะต้องผ่านทั้ง ทะเลสาบ คารากูล ชมวิวยอดเขา มูสทัก อะตา ที่มีธารน้ำแข็งมากมาย ทะเลทราย บนที่ราบสูงปามีร์ จนถึงเมือง ทัชกอกัน สุดท้ายชายแดนจีน ก่อนจะขึ้นสู่ ช่องข้าม คุนจิราบ
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ระหว่างการเดินทาง
บ่าย เดินทางถึงเมือง ทัชกอกัน นำท่านชม ป้อมปราการหิน โบราณตั้งแต่สมัยราชวงศ์ถัง และ วิวทิวทัศน์ของ หุบเขาที่ขนาบด้วย เทือกเขาปามีร์ และ คาราโครัม ที่มีแอ่งน้ำใสราวกระจก ก่อนจะเข้าสู่ที่พัก โรงแรมดีที่สุดน่าจะเทียบได้กับระดับ 2 ดาว ในเมืองนี้ และ ระวังเรื่องการแพ้ความสูง เพราะเรามาอยู่บนความสูงถึง 3000 เมตร ทานอาหารเยอะๆ พักผ่อนเยอะๆ จิบน้ำร้อนบ่อยๆนะครับ

วันที่สิบของการเดินทาง 24 ก.ย. (ทัขกอกัน - คุนจิราบ - ปากีสถาน - ซุส - พัสสุ) [B-L-D]
เช้า ออกเดินทางตั้งแต่เวลา ที่ด่าน คุนจิราบ เปิดเราจะต้องออกทำเรื่องออกจากเขตแดนจีนที่เมืองทัชกอกาน และ ต้องไปทำเรื่องเข้าปากีสถาน ตอนเย็น ระยะทาง 220 กม. ที่ไม่มีดิวตี้ฟรีเลยสักแห่ง แม้กระทั่งห้องน้ำ หรือ นำร้อนก็ยากที่จะหาได้ แต่วิวทิวทัศน์นั้นช่างสวยงามเหลือเกินครับ ภูเขาหิมะ หลากหลายสไตล์รูปทรง ใบไม้เปลี่ยนสี หุบเขาโตรกผา และ หลักเขตแดนที่สูงที่สุดในโลก ที่คุนจิราบพาส 4800 เมตร จากระดับน้ำทะเล
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน แบบปิคนิค เลือกทำเลสวยๆสักแห่งครับ
บ่าย เดินทางถึง เขตแดนปากีสถาน ที่เมือง Sust (ซุส) ทำวีซ่าออนอะไรวัล (ช่วยๆกันเขียนนะครับ พนักงานที่นี่ ยังไม่รับทำออนไลน์ ต้องมาเขียนให้ดูทีละคน แปะทีละแผ่น เค้าถึงยอมครับ) จากนั้นเดินทางเข้าสู่ที่พักที่เมือง Passu (พัสสุ) ที่ห่างออกไปอีก 1 ชม.
เย็น รับประทานอาหาร ที่โรงแรม แล้ว จึงแยกย้ายพักผ่อนตามอัธยาศัย วันนี้ ความสูงเราต่ำลงเพียง 2600 เมตรจากระดับน้ำทะเล ที่จะคลายอาการแพ้ความสูงกันได้แล้วครับ

วันที่สิบเอ็ดของการเดินทาง 25 ก.ย. (พัสสุ - ธารน้ำแข็งพัสสุ - บอริทเลค - กุลมิตร - ฮุนซ่า) [B-L-D]
เช้า รับประทานอาหารเช้า แล้วแนะนำให้ พกสมุด ดินสอปากกา ลูกอม จากไทย หรือ จีนมาเยอะๆ เช้าๆ หน้าโรงแรม จะมีเด็กนักเรียนปากีสถาน ผู้ซึ่งน่ารัก และ ขาดแคลนอุปกรณ์เพื่อการศึกษาเป็นอย่างมาก เป็นในความประทับใจ ของผมที่แม้จะผ่านมากี่ครั้ง ผมก็ต้องการเสนอมุมมองนี้ กับผู้ร่วมเดินทางทุกครั้ง แต่ก็มีเวลาไม่มาก พอโรงแรมเข้า เราก็ได้เวลาออกเดินทางต่อไป สู่ ธารน้ำแข็งพัสสุ เป็นธารน้ำแข็งที่สวยงามและดิบๆมากเลยครับ ดิบตรงที่ว่า จอดรถข้างถนนแล้วเดินเท้าเข้าไปหาธารน้ำแข็งได้เลยครับ ยิ่งมีแรงเยอะ ก็สามารถเดินเข้าไปได้ใกล้ๆ จนแทบจะจับน้ำแข็งกันได้เลยทีเดียวครับ แต่ถ้าใครเดินไม่ไหว เราก็ให้เวลานั่งชมวิวประมาณ 3 ชม. ก็ต้องกลับมาเจอกัน แล้วไปรับประทานอาหารกลางวันได้แล้ว
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ริมทะเลสาบบาริท ทะเลสาบธรรมชาติ ท่ามกลางภูเขาหิมะ โรงแรมที่เต็มไปด้วยต้นแอ๊บเปิ้ลออกผลมากมาย อาหารง่ายๆ วิวสวยๆ นี่หละครับ นิยามความสวยงามและสงบสุขระหว่างการเดินทาง
บ่าย ออกเดินทางต่อ สู่เมืองกุลมิตร แวะชมบ้าน ที่อายุถึง 700 ปี ที่สืบสถาปัตยกรรม จาก อาณาจักรฺ บอลติสสถานที่หายสาปสูญไปในกาลเวลา และการทำพรหมขนสัตว์ และยังสามารถเอาของมาแจกเด็กๆ วิ่งไล่ถ่ายรูปเด็กน่ารัก แก้มแดงๆ ตาสีฟ้า หลังจากนั้นเดินทางต่อไปจนถึงเมือง ฮุนซ่า ดินแดนสุขาวดี แชงกรีล่าแห่งคาราโครัม เที่ยวชม ป้อมปราการณ์ บัลติสฟอร์ท วังและป้อมปราการณ์ของเจ้าแคว้นฮุนซ่า ในสมัยการก่อน อายุกว่า 900 ปี ที่ผสมผสาน สถาปัตยกรรม ของ อาณาจักรบอลติส เมื่อหลายร้อยปีก่อน ก่อนจะ ขึ้นสู่ที่พัก ให้ทันพระอาทิตย์ตก ที่โรงแรม Eagle Nest สูงจากเมืองฮุนซ่าด้วยการนั่งรถจี๊บอีก ครึ่งชั่วโมง
เย็น ชมวิวพระอาทิตย์ตกที่มียอดเขาสูงตระหง่านรอบตัว ไม่ว่าจะเป็น อุลตร้าพีค เลดีฟิงเกอร์ โกลเด้นพีค ดิรานพีค ราคาโพชิ แล้ว รับประทานอาหารเย็น เข้าสู่ที่พักแสนคลาสิค ทั้งยามเย็นและยามเช้า

วันที่สิบสองของการเดินทาง 26 ก.ย. (ฮุนซ่า - ป้อมบัลติส - เปลี่ยนเรือข้ามทะเลสาบฮุนซ่า - กิลกิต) [B-L-D]
เช้ามืด ชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นอีกครั้ง ที่โรงแรม หรือ จุดชมวิวใกล้ๆ โรงแรม จากนั้นเที่ยวชม ป้อมบัลติส มีอายุเก่าแก่กว่า 750 ปี แล้วไปเปลี่ยนบรรยากาศ นั่งเรือข้ามทะเลสาบฮุนซ่ากันครับ จากนั้นเดินทางสู่กิลกิต ระหว่างทางแวะที่ Zero Point ที่สามารถมองเห็น หน้าผาตั้งตรงและธารน้ำแข็ง ของยอดราคาโพชิ ที่สูงถึง 7600 เมตร ก่อนจะออกเดินทางต่อสู่เมือง กิลกิต
เย็น รับประทานอาหารเย็น และ เข้าที่พัก

วันที่สิบสามของการเดินทาง 27 ก.ย. (กิลกิต - ตาโตพานี่ – แฟรี่มีโดวส์ – กิลกิต) [B-L-D]
เช้า รับประทานอาหารเช้า แล้วเดินทางสู่เมือง ตาโตพานี (2 ชม. เลยจาก กิลกิต) เปลี่ยนรถจี๊บขึ้นสู่ หมู่บ้าน ตาโตพานี่ และ จึงเปลี่ยนม้าอีกครั้งในหนทางช่วงสุดท้าย 3 กม. (ไม่รวมค่าม้าขึ้นลง) สู่ทุ่งหญ้าแฟรีมีโดวส์ ที่มีป่าสน ทุ่งหญ้า และ ฉากหลังเป็น ธารน้ำแข็งและยอดเขาหิมะ นังการ์ปาบัด ที่สูงถึง 8120 เมตร . เป็นยอดเขาที่สูงรองจาก K2 เท่านั้น ได้เวลาสมควรแล้วเดินทางกลับลงมา แล้วกลับสู่กิลกิต ถ้ามาถึงเร็วมีเวลาเหลือ เที่ยวชมเมือง กิลกิต ตลาด เก็บของฝากที่ระลึก จากภูมิภาคเหนือของ ปากีสถาน
เย็น รับประทานอาหารเย็น และ พักผ่อนตามอัธยาศัย

วันที่สิบสี่ของการเดินทาง 28 ก.ย. (กิลกิต บินสู่ อิสลามาบัด - ตักศิลา - ชาร์ไฟซาล มัสยิด - ราวัลปินดี - ) [B-L-D]
เช้ามืด เดินทางสู่สนามบิน กิลกิต เช็คอินเที่ยวบนเช้า เดินทางสู่ อิสลามาบัด (แต่เที่ยวบินมักจะล่าช้าครับ) รับประทานอาหารเช้าที่สนามบิน หลังจากเดินทางถึง อิสลามาบัดแล้ว เที่ยวชม เมืองโบราณมรดกโลก ตักศิลา เมืองที่เคยเป็นชื่อแต่ในตำนาน พงศาวดาร หรือ แม้กระทั่งพระไตรปิฎก ต่อมาจึงขุดค้นพบเจอในภายหลัง ครั้งนึง ศาสนาพุทธเคยเจริญสูงสุด ณ ที่เมืองนี้ เมืองที่เป็นจุดบรรจบของตะวันออกและตะวันตก เมื่อ พระเจ้าอเล็กวานเดอร์มหาราช กรีฑาทัพเข้ามาชมพูทวีป และ เหล่าแม่ทัพนั้นไม่ได้เดินทางกลับ สู่ มาซิโดเนียด้วย แต่ นำเอาวัฒนธรรม อารยธรรมแบบกรีก เข้ามาผสมกับความเชื่อ ศิลปะของพระพุทธศาสนา จนกลายเป็นแขนงของ อารยธรรม รูปปั้นพระพุทธเจ้า ที่พระเกศาพริ้วไสว ราวกับรูปปั้นของเทพนิยายกรีก และ การสร้างผังเมืองแนวคิดที่ผสมผสาน ในหลายๆแง่มุมของประวัติศาสตรฺโลกตะวันออกและตะวันตก
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน
บ่าย เดินทางเข้าสู่ ชาร์ไฟซาล มัสยิดที่ใหญ่ และ มีชื่อเสียงที่สุดของ ปากีสถาน ดินแดนที่ใช้ศาสนาอิสลามเป็นทั้งข้อบัญญัติในชีวิต และ กำหมายระดับประเทศ ก่อนจะเข้าสู่ที่พัก ในเมือง ราวัลปินดี (15 กม. จาก อิสลามาบัด พูดง่ายๆคือเมืองเก่าหละครับ)
เย็น รับประทานอาหารเย็น เดินเล่นชมบรรยากาศของเมือง แต่ก็ไม่ควรดึกมากครับ

วันที่สิบห้าของการเดินทาง 29 ก.ย. (ราวัลปินดี - ละฮอร์ - ละฮอร์ฟอร์ท - พิพิธภัณท์ละฮอร์ - วาก้าบอร์เดอร์ พิธีปิดชายแดน - บินกลับ กทม. ( 23.00 น. )) [B-L-D]
เช้า รับประทานอาหารเช้า จากโรงแรม จากนั้น เดินทางไกลสักหน่อย 300 กม. ( 5-6 ชม.) บนเส้นทางด่วน อิสลามาบัด – ละฮอร์
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ที่ละฮอร์ หรือ ระหว่างการเดินทาง
บ่าย เที่ยวชม ละฮอร์ฟอร์ท ป้อมปราการและ มัสยิดที่ สร้างจากแรงบันดาลใจของ ทัชมาฮาล ด้วยหินทรายสีแดง และ หินอ่อนสีขาว แล้วจากนั้น ชม พิพิธภัณท์ละฮอร์ ซึ่งเก็บโบราณวัตถุล้ำค่าระดับโลก เช่น เสาอโศก พระพูทธรูปที่สมบูรณ์จากตักศิลา ศิลปวัตถุ จากศาสนาเชน ที่มีชื่อเสียง และ คุ้นตา น่าจะเป็น รูปสลักหินชนวนของ พระพุทธเจ้าตอนบำเพ็ญทุกขกิริยา จนเหลือแต่ซี่โครง หลังจากนั้น นำท่านเดินทางสู่ ชายแดน ปากีสถาน - อินเดีย (18 กม.) เพื่อชม พิธีปิดชายแดน ชมและเชียร์ ทั้งสองผ่าย ว่าใครจะเชียร์ดังกว่า ทหารของฝ่ายใด จะแสดงท่าทางได้เข้มแข็ง ชักธงลงได้เร็วกว่ากัน แสดงให้เห็นถึง ความเกลียดชัง และ อดีตอันโหดร้ายของ ประเทศที่เคยเป็นประเทศเดียวกัน
เย็น รับประทานอาหารค่ำในเมือง ละฮอร์ก่อนจะเดินทางเข้าสู่สนามบิน
21.20น. เช็คอินเที่ยวบิน TG350 เดินทางกลับสู่ กรุงเทพมหานคร เวลา 23.20 (ISB) – 06.25 (BKK)

วันที่สิบหกของการเดินทาง 30 ก.ย.( กทม. )
06.25 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพและประทับใจ

หมายเหตุ อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงโปรแกรม เนื่องจากเหตุการณ์เฉพาะหน้า ซึ่งทางทีมงานผู้นำทัวร์ หรือ ไกด์ท้องถิ่น สามารถตัดสลับ โดยเน้นประโยชน์และความพอใจของคณะทัวร์ส่วนใหญ่เป็นสำคัญ และ พยายามจะแจ้งล่วงหน้าเท่าที่ทำได้ ซึ่งขึ้นอยู่กับสถานการณ์เฉพาะหน้าในขณะนั้นด้วยนะครับ

รายละเอียดของสินค้า

ต้องการ :ขาย
สภาพสินค้า :ของใหม่
วิธีจัดส่งสินค้า :แล้วแต่ตกลง
ราคา : 109,000 บาท

ติดต่อผู้ประกาศ

ที่อยู่
380/311 หมู่บ้านศุภาลัยวิลล์ ซอยรัชดาภิเษก 32 จันทรเกษม จตุจักร จ.กรุงเทพมหานคร
ติดต่อคุณ : Oat TravelLife
สมาชิก/บุคคลทั่วไป : บุคคลทั่วไป
เบอร์โทรศัพท์: 089-6367666
อีเมลล์ : TravelLifeThailand@hotmail.com
เว็บไซต์ : www.TravelLifeThailand.com


ประกาศที่เกี่ยวข้อง ประกาศที่เกี่ยวข้อง หรือประกาศที่ใกล้เคียง