“ง่วง” แล้วหลับใน ตายได้ใน 4 วินาที!!!
4 ม.ค. 2557
13:52:57
โครงการรณรงค์กระเป๋ากันง่วงลดอุบัติเหตุ โดย นพ.มนุญ ลีเชวงวงศ์ ประธานกรรมการทุนง่วงอย่าขับ ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ มูลนิธิรามาธิบดี ได้ร่วมแถลงข่าวและสนับสนุนโครงการอำนวยความสะดวก มั่นคง และปลอดภัย รองรับการเดินทางของประชาชน ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2557 ร่วมกับทางการพิเศษแห่งประเทศไทย เพื่อรองรับการเดินทางของประชาชนช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยได้รับเกียรติจาก พลเอก พฤณฑ์ สุวรรณทัต รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และนายอัยยณัฐ ถินอภัย ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย เป็นประธานในพิธี โดยสถาบันยานยนต์ได้ร่วมเดินขบวนรณรงค์และ สนับสนุนพัดรณรงค์ความปลอดภัย ณ จุดบริการประชาชน บริเวณด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษ ด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษ บางแก้ว1, บางประอินขาเข้า, บางประอินขาออก, จตุโชติ และ ประชาชื่นขาออก รวม 5 ด่าน ตามนโยบายกระทรวงคมนาคม
นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ กล่าวถึงกระเป๋ากันง่วง....ลดอุบัติเหตุ
โครงการรณรงค์กระเป๋ากันง่วง...ลดอุบัติเหตุ มีวัตถุประสงค์ให้คนไทยตระหนักถึงภัยอันตรายของการง่วงแล้วขับและบอกถึงวิธีการแก้ไขอย่างต่อเนื่อง ได้จัดทำกระเป๋ากันง่วง...ลดอุบัติเหตุ สำหรับวางข้างกายคนขับ ซึ่งข้างกระเป๋าจะมีข้อความบอกถึงอันตรายของการง่วงแล้วขับ และมีวิธีป้องกันง่ายๆ ด้วยตัวเอง ในกระเป๋านี้บรรจุของ ที่จำเป็น 9 อย่าง ได้แก่ ลูกอม หมากฝรั่ง ยาหม่องน้ำหรือยาดม กาแฟ เครื่องดื่มชูกำลัง หมอนรองคอ หน้ากากปิดตา ปลั๊กอุดหู เพื่อให้คนขับหยิบใช้ได้ทันทีเมื่อเกิดอาการง่วงหรือต้องการพักผ่อน เป็นการช่วยลดอุบัติเหตุทางด้านทรัพย์สินและชีวิตที่เกิดจากการหลับใน เน้นการเตรียมความพร้อมในการป้องกันและแก้ไขอุบัติเหตุบนท้องถนนเกี่ยวกับ "ง่วงแล้วหลับใน "อุบัติเหตุที่เกิดจากง่วงแล้วหลับในเป็นสาเหตุสำคัญที่อย่างน้อย 20% ของการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุการจราจรทั่วโลก ร่วมกับหน่วยงานภาคเอกชนและภาครัฐบาลอย่างเป็นทางการ เพื่อต้องการลดความสูญเสียจากการเกิดอุบัติเหตุการจราจรบนท้องถนนและการเสียชีวิตอย่างแท้จริง อีกทั้งสร้างจิตใต้สำนึกและกระตุ้น ความปลอดภัยด้วยสติศักยภาพทางด้านสมาธิให้ผู้ใช้รถบนท้องถนนทั่วประเทศตั้งข้อสังเกต “ เมื่อมีอาการง่วงแล้วไม่ควรขับรถ”
“ความง่วง” ภัยแฝงสุดร้าย
สาเหตุหลัก 1 ใน 3 ของการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุจราจร
ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ใกล้เข้ามาทุกที ขณะที่หลายๆ คนต้องอดหลับอดนอน ทำงานหามรุ่งหามค่ำเพื่อเร่งงานให้เสร็จพร้อมๆ กับที่ต้องเตรียมตัวเพื่อเดินทางในช่วงวันหยุดยาว ทั้งเพื่อเยี่ยมเยียนครอบครอบครัวและเพื่อท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา การป้องกันอุบัติเหตุจากการเดินทางในช่วงเทศกาล มักเน้นที่การตั้งด่านหรือจุดตรวจ เพื่อตรวจจับการฝ่าฝืนกฎจราจร แต่สิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่น้อยกว่ากันและไม่ควรมองข้าม คือการรณรงค์ให้ผู้ใช้รถใช้ถนนตระหนักถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากการขับขี่อย่างประมาท และการขับรถในขณะที่สภาพร่างกายของผู้ขับขี่ไม่พร้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขับรถในขณะง่วงนอนเพราะ “ความง่วง” เป็นสาเหตุสำคัญของอุบัติภัยบนท้องถนนในสัดส่วนที่สูงถึงร้อยละ 16 -– 60% จากรายงานการศึกษาวิจัยซึ่งตีพิมพ์ในวารสาร วิชาการด้านเวชศาสตร์สิ่งแวดล้อมและอาชีวอนามัยแห่งประเทศอังกฤษ (BritishJournalof Occupational and Environmental Medicine) ในปี 2543 “ สำหรับในประเทศไทยอุบัติเหตุทางรถยนต์อันมีสาเหตุมาจากความง่วงนั้นสูงถึงราว 1 ใน 3 น.พ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ประธานกรรมการทุนง่วงอย่าขับ ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ มูลนิธิรามาธิบดี เปิดเผยถึงสถิติสำคัญของอุบัติเหตุรถยนต์อันมีสาเหตุมาจาก “ความง่วง” ภัยเงียบที่หลายๆ คนมิได้คำนึงถึงเพราะอาการง่วงนั้นเกิดขึ้นได้กับทุกคน ทุกเพศ ทุกวัยโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลาช่วงบ่ายสองถึงสี่โมงเย็น และหลังเที่ยงคืนถึงเจ็ดโมงเช้าเนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่คนเราได้ตื่นขึ้นมาทำกิจกรรมต่างๆ เป็นเวลาติดต่อกันนานหลายชั่วโมง จนร่างกายเริ่มมีอาการเหนื่อยล้าและง่วงนอน”
“ง่วง” แล้วหลับใน ตายได้ใน 4 วินาที!!!
ถ้าเรากลับเผลอหลับในเพียงแค่ 4 วินาทีขณะที่ขับรถด้วยความเร็ว 90 กม./ชม. รถจะวิ่งออกไปได้ไกลถึง 100 เมตรโดยที่คนขับไม่รู้ตัวเลย ซึ่งภายในระยะทาง 100เมตรนี้ รถอาจจะพุ่งเข้าชนอะไรก็ได้ และด้วยความเร็ว 90 กม./ชม. ความรุนแรงของการพุ่งชนจะเทียบได้กับการตกตึกที่สูงถึง 10 ชั้น น.พ. มนูญ ลีเชวงวงศ์ ประธานกรรมการทุนง่วงอย่าขับฯ ยกตัวอย่างถึงอันตรายร้ายแรงของ “ความง่วง” อย่างเป็นรูปธรรม และยังได้เผยถึงผลการศึกษาของมูลนิธิฯ ว่า “ความง่วงเป็นสาเหตุสำคัญของอุบัติเหตุการจราจรในเมืองไทย เพราะจากผลการศึกษาของมูลนิธิฯ ที่สอบถามจากผู้ขับรถหลากหลายประเภท พบว่า ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง จะต้องมีคนขับที่กำลังรู้สึกง่วงอยู่อย่างน้อยร้อยละ 50 โดยที่มีคนจำนวนมากถึงร้อยละ 28-53 เคยหลับใน
สาเหตุแนวทางแก้ไข “ความง่วง”
น.พ. มนูญ ลีเชวงวงศ์ ได้อธิบายถึงปัจจัย 4 ประการ ที่เป็นสาเหตุของความง่วง ว่าเกิดจากการอดนอนหรือพักผ่อนไม่เพียงพอ รวมถึงการกินยาบางประเภทที่มีฤทธิ์ทำให้ง่วงนอนและการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อีกทั้ง การมีโรคประจำตัวบางอย่าง เช่น นอนกรน และโรคหยุดหายใจขณะหลับ ล้วนเป็นสาเหตุหนึ่งของความง่วง เนื่องจากโรคเหล่านี้มีผลต่อการนอน “ผู้ขับขี่รถยนต์ในช่วงเทศกาลวันหยุด ยาวและเทศกาลปีใหม่ ควรจอดพักทุกๆ ชั่วโมงครึ่ง และหมั่นสังเกตอาการเตือนของสัญญาณง่วง เช่น หาวนอน ไม่หยุด ตาลืมไม่ค่อยขึ้น และเมื่อความง่วงนั้นรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ การบังคับรถจะเริ่มทำได้ยาก ผู้ขับรถจะมีอาการจิตใจล่องลอย และจำไม่ได้ว่าขับรถผ่านอะไรมาบ้าง ซึ่งเป็นสัญญาณสำคัญที่บอกว่าผู้ขับนั้นง่วงนอนมากจนควร .ที่จะจอดรถเพื่อดื่มกาแฟ และงีบสัก 15 นาที ก่อนที่จะขับรถต่อ เพื่อความปลอดภัย”
ขอขอบคุณผู้สนับสนุนโครงการรณรงค์กระเป๋ากันง่วงลดอุบัติเหตุ :
น้ำแร่เพอร์ร่า,เครื่องดื่มชูกำลังแรงเยอร์,ยาดมเอี๊ยะแซ,ขนมถั่วลันเตาอบกรอบสแน็คแจ็ค,ลูกอมรสนม (บริษัทแพรรี่มาร์เก็ตติ้งจำกัด),ยานัตถุ์หมอมี,น้ำดื่มลินเด้,ยาดมสมุนไพรตราเฌอเอม
Public Relations Head Office : For more information, pleasecontact:
The Eye D Co.,Ltd.( บริษัท ดิอายส์ดีท์ จำกัด )
Project to Corporate Social Responsibility Program
Tel:084-970-8787, 092-75-888-75
E-mail : 2556@theeyed.com
รายละเอียดของสินค้า
ต้องการ :ประกาศ
ราคา :
ไม่ระบุราคา
ติดต่อผู้ประกาศ
ที่อยู่
เขตสะพานสูง จ.กรุงเทพมหานคร
ติดต่อคุณ : theeyed
สมาชิก/บุคคลทั่วไป :
บุคคลทั่วไป
เบอร์โทรศัพท์: 027280945
อีเมลล์ :
เว็บไซต์ :
ลบด้วยรหัสลบประกาศ
ประกาศที่เกี่ยวข้อง ประกาศที่เกี่ยวข้อง หรือประกาศที่ใกล้เคียง